ตรวจเอชไอวีไม่เจอ มีจริงหรือ!?

หลายคนมีความสงสัยว่าถ้าเราไป ตรวจเอชไอวีไม่เจอ เราจะสามารถเชื่อถือผลตรวจได้จริงแค่ไหน? หรือบางคนที่ติดเชื้ออยู่แล้ว บอกกับเราว่าตรวจเอชไอวีไม่เจอ ไม่สามารถแพร่เชื้อให้ใครได้นั้นมีความจริงอยู่มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากคนไทยยังมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับไวรัสเอชไอวี ทั้งเรื่องของการติดต่อ และการตรวจรักษา วันนี้ เราได้รวบรวมคำตอบมาให้แล้วที่นี่ครับ

ตรวจเอชไอวีไม่เจอ มีเหตุมาจากอะไรบ้าง

ระยะฟักตัว

หากคุณมีความเสี่ยงวันนี้ และคุณตัดสินใจไปตรวจวันนี้ แน่นอนว่า ผลตรวจที่ได้ย่อมไม่เจอเชื้อ เพราะไวรัสเอชไอวี มีระยะเวลาในการฟักตัว ก่อนจะเริ่มทำปฏิกิริยากับร่างกาย และระบบภูมิคุ้มกัน โดยทั่วไป เราสามารถตรวจเอชไอวีได้ที่ 30 วันขึ้นไปหลังจากมีความเสี่ยง จึงจะสามารถบอกได้ว่า คุณมี หรือไม่มีเชื้ออยู่ แต่ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ปัจจุบัน มีวิธีในการตรวจเอชไอวีที่หลากหลาย แม่นยำ และที่สำคัญสามารถตรวจพบเชื้อได้เร็วขึ้น ดังต่อไปนี้

  • การตรวจเอชไอวีแบบ p24 Antigen : เป็นวิธีตรวจหาแอนติเจนของเชื้อเอชไอวีที่ในระยะแรกร่างกายยังไม่ทันสร้างแอนติบอดีขึ้นมาป้องกันเชื้อ รอระยะฟักตัวประมาณ 14 วัน
  • การตรวจเอชไอวีแบบแอนติบอดี (ANTI-HIV) : เป็นวิธีตรวจเอชไอวีที่ได้รับความนิยมในสถานพยาบาลมากที่สุด รอระยะฟักตัวประมาณ 21-30 วันถึงจะพบเชื้อ
  • การตรวจเอชไอวีแบบน้ำยา Gen 4th (Fourth Generation) : เป็นวิธีตรวจแบบ p24 ร่วมกับ Anti-HIV เพราะตรวจทั้งแอนติเจนและแอนติบอดีของเชื้อเอชไอวี ด้วยน้ำยาตรวจชนิดเดียวกัน หรือเรียกว่าน้ำยา Gen 4th รอระยะฟักตัวที่ 14 วันหลังมีความเสี่ยงก็สามารถพบเชื้อและให้ผลที่มีประสิทธิภาพสูง
  • การตรวจเอชไอวีแบบแนท (NAT) : เป็นวิธีตรวจเอชไอวีด้วยการหาสารพันธุกรรมของเชื้อที่มีความไวที่สุด คือ รอระยะฟักตัวประมาณ 5-7 วันก็สามารถพบเชื้อได้แล้ว

ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง

ปัจจุบันมีชุดตรวจคัดกรองเอชไอวีด้วยตัวเอง ผลิตออกมาจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถหาซื้อได้อย่างสะดวก และทำการตรวจด้วยตัวเอง แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ได้รับคำแนะนำจากเภสัชกรก่อนทำการตรวจ หรือไม่ได้อ่านคู่มือการใช้งานให้ละเอียดถี่ถ้วน จึงทำให้มีโอกาสที่จะตรวจผิดขั้นตอน ทำไม่ถูกวิธี บางคนใช้หยดเลือดน้อยเกินไป หรือใช้น้ำยาผิดลำดับ เป็นต้น อันเป็นเหตุทำให้ผลตรวจมีความไม่แม่นยำ หรือแสดงผลตรวจที่ไม่สามารถอ่านค่าได้ เราแนะนำให้คุณทำการตรวจซ้ำอีกครั้งกับสถานพยาบาล

U=U ตรวจเอชไอวีไม่เจอ = ไม่แพร่เชื้อ

U=U หรือ Undetectable = Untransmissible หมายถึง ไม่เจอเชื้อเท่ากับไม่แพร่เชื้อ ซึ่งเป็นสภาวะที่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ทำการรักษาด้วยการทานยาต้านไวรัสอย่างเคร่งครัด จนฤทธิ์ยาช่วยกดปริมาณเชื้อเอชไอวีที่มีอยู่ในเลือดให้ระดับต่ำมาก กล่าวคือ มีค่าต่ำกว่า 40 copies/มล. ทางกระบวนการทางการแพทย์จะเรียกว่า ตรวจเอชไอวีไม่เจอ ทันที เพราะเชื้อในระดับนี้จะไม่สามารถแพร่เชื้อให้กับคู่นอนได้ ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า ผู้ติดเชื้อเอชไอวีไม่มีเชื้อแล้ว 100% เพราะไม่ว่าจะทดสอบด้วยวิธีการตรวจรูปแบบใดก็ยังจะพบเชื้ออยู่ดี เพียงแต่เป็นปริมาณที่ต่ำเท่านั้น รวมไปถึง หากผู้ติดเชื้อหยุดยา หรือขาดยา เชื้อไวรัสจะค่อยๆ แบ่งตัวกลับมามีปริมาณที่มากขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์

ทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ U=U

ทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ U=U

ประโยชน์ของ U=U มีอยู่มากมาย แต่จำเป็นจะต้องมีการเรียนรู้และเข้าใจถึงรายละเอียดของการอยู่ในสภาวะนี้ของผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • หากผู้ติดเชื้ออยู่ในภาวะ U=U สามารถมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนโดยไม่สวมถุงยางอนามัยได้ เพราะไม่ทำให้คู่นอนติดเชื้อ แต่จะต้องเป็นการตัดสินใจของคุณทั้งคู่ และจะต้องไม่มีความเสี่ยงกับคนอื่น รวมทั้งผู้ติดเชื้อควรทำการตรวจไวรัสโหลดเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการตรวจเช็คไปในตัวว่ามีปริมาณเชื้ออยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ตลอดไปหรือไม่
  • ผู้ติดเชื้ออยู่ในภาวะ U=U จำเป็นต้องทานยาต้านไวรัสไปตลอดชีวิต ไม่สามารถหยุดยาได้ ถึงแม้จะตรวจแทบไม่พบเชื้อแล้ว แต่ในความเป็นจริงไวรัสเอชไอวีก็ยังคงมีอยู่ในร่างกาย หากไม่มีฤทธิ์ยา ไวรัสก็มีสิทธิแพร่จำนวนขึ้นได้อีก
  • การเลือกไม่สวมถุงยางอนามัย เป็นเหตุให้เกิดการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ และยังเพิ่มโอกาสเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ขึ้นได้นอกเหนือจากไวรัสเอชไอวี
  • ผู้ติดเชื้ออยู่ในภาวะ U=U มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น มีความมั่นใจและกล้าเปิดเผยผลเลือดของตัวเองให้กับคนรักหรือคู่นอนได้ทราบ
  • สำหรับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีใหม่ๆ หรือผู้ที่มีความเสี่ยง หากได้รับรู้เรื่อง U=U จะช่วยสร้างกำลังใจที่ดีในกระบวนการรักษา และทานยาต้านไวรัสอย่างมีวินัย
  • ผู้ติดเชื้อเอชไอวี สามารถวางแผนมีบุตรได้ด้วยการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • U=U ทำให้ทุกคนในสังคมไทย เข้าใจผู้ติดเชื้อเอชไอวีมากขึ้น เลิกรังเกียจ เลิกกีดกันตีตราและเลือกปฏิบัติกับผู้ติดเชื้อ

ตรวจเอชไอวีไม่เจอ ตรวจซ้ำได้อีกเมื่อไหร่

หากคุณตรวจเอชไอวีและยังไม่พบเชื้อ สามารถตรวจซ้ำอีกครั้งได้ที่ 30 วันนับจากวันที่มีความเสี่ยง เพราะในช่วงระยะเวลานี้ ร่างกายจะทำการสร้างแอนติบอดีขึ้นเรียบร้อยแล้ว ทำให้สามารถตรวจได้ผลที่แม่นยำยิ่งขึ้น หรือปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมถึงความกังวลใจที่มี เพื่อที่แพทย์จะได้ให้คำแนะนำคุณในการตรวจครั้งต่อไปได้อย่างถูกต้อง

ถึงแม้ว่า ไวรัสเอชไอวี จะยังไม่สามารถถูกกำจัดออกไปจากร่างกายของผู้ติดเชื้อได้อย่างหมดสิ้น แต่ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่มีความก้าวหน้าในปัจจุบัน การรักษาผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีด้วยยาต้านไวรัสนั้น เป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้สุขภาพของผู้ติดเชื้อแข็งแรงดี สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงและยังไม่กล้าตัดสินใจไปตรวจเลือดสักครั้ง ก็จะได้กล้าไปตรวจเสียตั้งแต่วันนี้ เพราะรู้ว่าถึงแม้จะติดเชื้อก็ยังสามารถรักษาได้ และไม่ส่งต่อเชื้อให้กับใคร ปัญหาโรคเอดส์ ก็อาจจะค่อยๆ ลดลงได้ในอนาคตครับ

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

0
0