
แม้ว่าโลกจะก้าวเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีการแพทย์ทันสมัย และผู้คนเริ่มตระหนักถึงสุขภาพทางเพศมากขึ้น แต่ “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” ยังคงเป็นภัยเงียบที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม โดยเฉพาะ 3 โรคยอดฮิตอย่าง ซิฟิลิส หนองใน และเริม ที่แพร่กระจายได้ง่าย มีอาการคล้ายกัน และหลายคนไม่รู้ตัวว่าติดเชื้ออยู่ บทความนี้จะพาคุณมาทำความรู้จักกับแต่ละโรคอย่างละเอียด พร้อมคำตอบสำคัญ: “จะตรวจอย่างไร?”, “ตรวจแล้วเจ็บไหม?”, และ “รักษาหายไหม?” เพื่อให้คุณรู้เท่าทัน ป้องกันได้ และดูแลตัวเองได้อย่างมั่นใจ
ซิฟิลิส (Syphilis): โรคเงียบที่อันตรายอย่างไม่รู้ตัว
ซิฟิลิสคืออะไร?
ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum โดยสามารถแพร่ผ่านเพศสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่องคลอด ทวารหนัก หรือออรัลเซ็กส์ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกในครรภ์ได้

อาการของซิฟิลิส
ซิฟิลิสแบ่งออกเป็นหลายระยะ โดยแต่ละระยะจะมีลักษณะแตกต่างกัน:
- ระยะแรก: มีแผลที่อวัยวะเพศ ปาก หรือทวารหนัก ไม่เจ็บ ไม่คัน มักหายไปเอง
- ระยะที่สอง: มีผื่นขึ้นตามตัว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ต่อมน้ำเหลืองโต มีไข้ เจ็บคอ
- ระยะแฝง: ไม่มีอาการแต่ยังมีเชื้ออยู่ในร่างกาย สามารถแพร่ต่อได้
- ระยะสุดท้าย: อาจกระทบต่อหัวใจ สมอง และอวัยวะอื่น ๆ
ซิฟิลิส หนองใน เริม
ตรวจซิฟิลิสอย่างไร?
การตรวจซิฟิลิสทำได้ง่ายด้วยการ เจาะเลือด โดยแพทย์จะใช้การตรวจแอนติบอดี เช่น VDRL, RPR หรือ TPHA หากผลเป็นบวก จะมีการยืนยันด้วยการตรวจเฉพาะทางเพิ่มเติม
ตรวจซิฟิลิสเจ็บไหม?
การเจาะเลือดเพื่อวินิจฉัยซิฟิลิส ไม่เจ็บมาก เหมือนการตรวจเลือดทั่วไป ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที รู้ผลได้ภายในวันเดียวในบางแห่ง
รักษาซิฟิลิสหายไหม?
หากตรวจพบเร็ว ซิฟิลิสสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วย ยาฉีดเพนิซิลลิน หรือยาปฏิชีวนะอื่นในบางกรณี แต่หากปล่อยไว้นานจนเข้าสู่ระยะลุกลาม อาจทำให้เกิดความเสียหายถาวรในระบบประสาทหรือหัวใจ แม้จะรักษาแล้วก็ตาม

หนองใน (Gonorrhea): เจ็บแสบจากเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อย
หนองในคืออะไร?
หนองใน เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน โรคนี้สามารถติดที่อวัยวะเพศ ทวารหนัก ลำคอ และตา
อาการของหนองใน
อาการมักจะปรากฏภายใน 2-7 วันหลังสัมผัสเชื้อ
- ในผู้ชาย: ปัสสาวะแสบ มีหนองสีเหลืองหรือเขียวออกจากท่อปัสสาวะ ปวดลูกอัณฑะ
- ในผู้หญิง: ตกขาวผิดปกติ ปัสสาวะแสบ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ บางรายไม่มีอาการชัดเจน
- อาการอื่น: เจ็บคอ มีหนองในลำคอ ปวดทวารหนัก หรือมีเลือดออก
ตรวจหนองในอย่างไร?
การตรวจหนองในสามารถทำได้โดย:
- ป้ายสารคัดหลั่ง จากท่อปัสสาวะ ปากมดลูก คอ หรือทวารหนัก ส่งตรวจในห้องแล็บ
- ตรวจด้วยปัสสาวะ โดยเฉพาะในผู้ชาย
ปัจจุบันมีการตรวจแบบ NAATs (Nucleic Acid Amplification Tests) ซึ่งแม่นยำมาก
ตรวจหนองในเจ็บไหม?
การป้ายสารคัดหลั่งอาจรู้สึก ระคายเคืองหรือเจ็บเล็กน้อย โดยเฉพาะในผู้ชายที่ต้องใช้ก้านเข้าไปในท่อปัสสาวะ ส่วนการเก็บปัสสาวะไม่เจ็บเลย
รักษาหนองในหายไหม?
หนองในสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการ ฉีดยาปฏิชีวนะ ร่วมกับยากิน โดยต้องรักษาทั้งตัวเองและคู่นอน หากไม่รักษา อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะมีบุตรยาก อุ้งเชิงกรานอักเสบ หรือการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด

เริม (Herpes): เชื้อไวรัสตัวร้ายที่แฝงตัวอยู่ตลอดชีวิต
เริมคืออะไร?
เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes Simplex Virus (HSV) มี 2 ชนิดคือ:
- HSV-1: มักเกิดที่ปาก
- HSV-2: มักเกิดที่อวัยวะเพศ
เชื้อสามารถแพร่จากอวัยวะหนึ่งสู่อีกอวัยวะหนึ่งได้ผ่านการสัมผัสโดยตรงกับแผล หรือสารคัดหลั่งที่มีเชื้อ
อาการของเริม
- มีตุ่มน้ำใส หรือแผลแตกที่อวัยวะเพศหรือปาก
- แสบ คัน ปวด
- อาการอาจหายไปเองใน 7-10 วัน แต่กลับมาเป็นซ้ำได้
บางรายอาจไม่มีอาการแต่ยังแพร่เชื้อได้ (asymptomatic shedding)
ตรวจเริมอย่างไร?
สามารถตรวจได้โดย:
- Swab ตุ่มหรือแผล ส่งตรวจ PCR หาหัวเชื้อ
- เจาะเลือด ตรวจหาแอนติบอดี (IgG, IgM)
การตรวจที่แผลโดยตรงจะให้ผลแม่นยำมากกว่า โดยเฉพาะในระยะที่ยังมีตุ่มหรือแผลใหม่
ตรวจเริมเจ็บไหม?
การเก็บตัวอย่างจากแผลอาจรู้สึก แสบหรือเจ็บนิดหน่อย แต่ไม่รุนแรง ส่วนการเจาะเลือดเหมือนการตรวจทั่วไป
รักษาเริมหายไหม?
เริมไม่สามารถรักษาให้หายขาด ได้เพราะเชื้อจะฝังตัวอยู่ในระบบประสาท แต่สามารถควบคุมอาการและลดความถี่ของการเป็นซ้ำได้ด้วย ยาต้านไวรัส เช่น Acyclovir, Valacyclovir
หากรับการรักษาอย่างถูกต้อง อาการจะเบาลงและหายเร็วขึ้น รวมถึงลดโอกาสในการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น
เปรียบเทียบ: ซิฟิลิส หนองใน เริม
ลักษณะ | ซิฟิลิส | หนองใน | เริม |
สาเหตุ | แบคทีเรีย Treponema pallidum | แบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae | ไวรัส Herpes Simplex |
การติดต่อ | เพศสัมพันธ์/แม่สู่ลูก | เพศสัมพันธ์/ปาก/ทวารหนัก | สัมผัสแผล/ของเหลวที่มีเชื้อ |
ตรวจอย่างไร | เจาะเลือด | ป้ายสารคัดหลั่ง/ปัสสาวะ | ตรวจแผล/PCR/เจาะเลือด |
เจ็บไหม | เจาะเลือด เจ็บเล็กน้อย | ป้ายอาจเจ็บบ้างในบางกรณี | ป้ายแผล อาจแสบเล็กน้อย |
รักษาหายไหม | หายขาดด้วยยาปฏิชีวนะ | หายขาดด้วยยาปฏิชีวนะ | ไม่หายขาด แต่ควบคุมอาการได้ |
แล้วควรตรวจ ซิฟิลิส หนองใน เริม เมื่อไหร่?
คุณควรตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หาก:
- มีคู่นอนใหม่ หรือมีคู่นอนหลายคน
- เคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
- มีอาการผิดปกติ เช่น ตกขาว กลิ่น ปัสสาวะแสบ แผลที่อวัยวะเพศ
- เคยติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ มาก่อน
- ตั้งครรภ์ หรือวางแผนมีลูก
แนะนำให้ตรวจเป็นประจำทุก 3-6 เดือน สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง
ตรวจได้ ซิฟิลิส หนองใน และเริม ที่ไหน? ต้องใช้ชื่อจริงไหม?
ปัจจุบันมีบริการตรวจที่:
- โรงพยาบาลรัฐและเอกชน
- คลินิกเฉพาะทางด้านสุขภาพทางเพศ
- แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Love2Test.org ที่ให้บริการจองคิวตรวจฟรี ไม่ต้องใช้ชื่อจริง และเน้นความเป็นส่วนตัว
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
Chemsex อย่างไร? ให้ห่างไกลจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
Doxy-PEP กับการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
สรุป: ตรวจไว้ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ซิฟิลิส หนองใน และเริม ล้วนเป็นโรคที่สามารถควบคุม รักษา และป้องกันได้ หากตรวจพบเร็ว ไม่ว่าคุณจะมีอาการหรือไม่ก็ตาม การตรวจสุขภาพทางเพศเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลตัวเองและคู่ของคุณ การรู้สถานะของตนเอง คือก้าวแรกของความรับผิดชอบและการใช้ชีวิตอย่างมั่นใจเพราะการตรวจไม่ได้น่ากลัวเท่าการไม่รู้ หากคุณยังลังเล ขอให้บทความนี้เป็นแรงบันดาลใจให้คุณเลือก “รู้ไว้ ปลอดภัยกว่า”
อ้างอิงข้อมูลจาก ▶ บอกลาซิฟิลิส คู่มือการรักษาโรคซิฟิลิสให้หายขาด (https://lovefoundation.or.th/syphilis-curable) ▶ เริมมีสาเหตุการเกิดจากอะไร รักษาหายไหม (https://www.vimut.com/article/Herpes-Simplex-virus) ▶ โรคหนองใน (Gonorrhea) อาการ สาเหตุ การตรวจวินิจฉัย (https://www.medparkhospital.com/disease-and-treatment/gonorrhea) |