
“เพร็พ” เป็นยาที่ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง โดยPrEP มี 2 รูปแบบที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่ PrEPแบบรายวัน และ PrEP On-demand ทั้งสองรูปแบบมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HIV แต่มีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งเหมาะกับลักษณะพฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลาย บทความนี้ จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับPrEP ทั้งสองรูปแบบ พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการใช้งาน เพื่อช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวคุณ
PrEP คืออะไร? PrEP On-demand และ PrEPรายวัน
PrEP ย่อมาจากคำว่า Pre-Exposure Prophylaxis คือยาต้านไวรัสที่ใช้ป้องกันการติดเชื้อ HIV สำหรับผู้ที่ยังไม่มีเชื้อ แต่มีความเสี่ยงที่จะสัมผัสเชื้อ เช่น:
- ผู้ที่มีคู่นอนผลเลือดต่าง หรืออยู่ร่วมกับเชื้อ HIV
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ไม่สวมถุงยางอนามัย
- ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ในกรณีเสพสารเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น
PrEP มีประสิทธิภาพสูงในการลดโอกาสการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี หากใช้อย่างถูกต้อง โดยสามารถลดความเสี่ยงได้มากกว่า 90% ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และสูงถึง 70% สำหรับผู้ใช้สารเสพติดผ่านทางเข็มฉีดยา
PrEP On-demand หรือ PrEPตามความต้องการ
เพร็พตามความต้องการ หรือที่เรียกว่า PrEP 2-1-1 เป็นวิธีการรับประทาน PrEP แบบเฉพาะกิจ ซึ่งผู้ใช้จะรับประทานยาเฉพาะช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงที่จะสัมผัสเชื้อ HIV โดยมีรูปแบบการใช้ดังนี้:
- รับประทานยา 2 เม็ด: ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2-24 ชั่วโมง
- รับประทานยา 1 เม็ด: หลังการมีเพศสัมพันธ์ 24 ชั่วโมง
- รับประทานยา 1 เม็ด: หลังจากนั้นอีก 24 ชั่วโมง
ตัวอย่างการใช้งาน:
หากคุณวางแผนจะมีเพศสัมพันธ์ในวันเสาร์เวลา 20:00 น. คุณควรเริ่มรับประทานยา:
- วันเสาร์ เวลา 18:00 น.: รับประทานยา 2 เม็ด
- วันอาทิตย์ เวลา 18:00 น.: รับประทานยา 1 เม็ด
- วันจันทร์ เวลา 18:00 น.: รับประทานยา 1 เม็ด
PrEP รายวัน (PrEP Daily)
PrEP แบบรายวัน คือการรับประทานยาทุกวันอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่คุณมีเพศสัมพันธ์ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV อย่างต่อเนื่อง เช่น ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงติดเชื้อสูง เป็นต้น
เปรียบเทียบ PrEP On-demand และแบบรายวัน
หัวข้อ | PrEP On-demand | PrEP แบบรายวัน |
---|---|---|
รูปแบบการใช้งาน | ☞ ใช้เฉพาะเมื่อวางแผนจะมีเพศสัมพันธ์ | ☞ รับประทานยาทุกวันอย่างต่อเนื่อง |
ความเหมาะสม | ☞ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์เป็นครั้งคราว | ☞ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งหรือมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ HIV |
ค่าใช้จ่าย | ☞ ประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากใช้ยาเฉพาะช่วงที่จำเป็น | ☞ ค่าใช้จ่ายสูงกว่า เนื่องจากต้องใช้ยาต่อเนื่องทุกวัน |
ความสะดวก | ☞ ไม่ต้องรับประทานยาในช่วงที่ไม่มีเพศสัมพันธ์ | ☞ ไม่ต้องวางแผนล่วงหน้าก่อนมีเพศสัมพันธ์ |
ประสิทธิภาพ | ☞ สามารถป้องกันได้สูง หากใช้อย่างถูกต้องตามหลักการ 2-1-1 | ☞ สามารถป้องกันได้เต็มประสิทธิภาพ หากรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ |
การป้องกันในกลุ่มเสี่ยง | ☞ เหมาะกับชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) | ☞ เหมาะกับทุกเพศ รวมถึงผู้หญิงและผู้ที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน |
มี PrEP แบบอื่นอีกหรือไม่?
มี นอกจาก PrEP แบบรายวันและเพร็พOn-Demand หรือ Event-Driven PrEP ปัจจุบันยังมี PrEP แบบฉีด (Injectable PrEP) ซึ่งเป็นวิธีใหม่ที่มีประสิทธิภาพและสะดวกมากขึ้น

PrEP แบบฉีด (Injectable PrEP)
Injectable PrEP ใช้ยาที่ชื่อว่า Cabotegravir (CAB-LA) ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสกลุ่ม integrase strand transfer inhibitor (INSTI) โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อทุก 2 เดือน หลังจากฉีดครั้งแรกและครั้งที่สองในช่วง 4 สัปดาห์แรก จากนั้นฉีดทุก 8 สัปดาห์ การใช้วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี โดยเฉพาะในกลุ่มชายรักชาย (MSM) และกลุ่มทรานส์เจนเดอร์ (TGW)
การใช้ PrEP แบบฉีดมีข้อดีหลายประการ ได้แก่:
- ไม่ต้องรับประทานยาเป็นประจำ: ช่วยลดความยุ่งยากและความเสี่ยงจากการลืมรับประทานยา
- ประสิทธิภาพสูง: จากการวิจัยพบว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าการรับประทานยาแบบรายวันในบางกลุ่มประชากร
- ความเป็นส่วนตัวและความสะดวก: เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นทราบว่าตนกำลังใช้ PrEP หรือผู้ที่ไม่สะดวกในการพกพายา
“PrEP ในปัจจุบันมีให้เลือกใช้ในหลายรูปแบบเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็น PrEP แบบรายวัน สำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นใจในทุกวัน PrEP แบบตามความต้องการ สำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น หรือ PrEP แบบฉีด ที่ช่วยลดความยุ่งยากในการใช้ยาและให้การป้องกันที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ การมีทางเลือกที่หลากหลายนี้ไม่เพียงช่วยลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวี แต่ยังช่วยส่งเสริมให้การป้องกันกลายเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้และเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน”
ข้อดีและข้อเสียของเพร็พ On-Demand เพร็พแบบรายวัน และเพร็พแบบฉีด

- PrEP On-Demand
- ข้อดี
- มีประสิทธิภาพสูงหากใช้ตามสูตรอย่างถูกต้อง
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อยหรือสามารถวางแผนล่วงหน้าได้
- ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาเป็นประจำทุกวัน ลดความยุ่งยากในการใช้ยา
- ลดค่าใช้จ่าย เพราะใช้ยาเฉพาะในช่วงที่มีความเสี่ยงเท่านั้น
- ข้อเสีย
- ต้องวางแผนการใช้ยาล่วงหน้า ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้วางแผน
- ไม่แนะนำสำหรับผู้หญิง เพราะประสิทธิภาพในการป้องกันอาจไม่เท่ากับในผู้ชาย
- หากใช้ยาไม่ตรงตามสูตร ประสิทธิภาพในการป้องกันอาจลดลง
- อาจเกิดผลข้างเคียงเช่นเดียวกับ PrEP แบบรายวัน แต่ความถี่ของผลข้างเคียงอาจน้อยกว่าเนื่องจากใช้ยาไม่บ่อย
- ข้อดี
- PrEP แบบรายวัน
- ข้อดี
- มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีถึง 99% หากรับประทานอย่างต่อเนื่อง
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและมีเพศสัมพันธ์เป็นประจำ
- ไม่ต้องวางแผนล่วงหน้าก่อนมีเพศสัมพันธ์
- ใช้ได้กับทุกเพศ รวมถึงผู้หญิงที่ต้องการการป้องกัน
- ข้อเสีย
- ต้องรับประทานยาเป็นประจำทุกวัน ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับบางคน
- หากลืมรับประทานยา ประสิทธิภาพในการป้องกันอาจลดลง
- อาจมีผลข้างเคียงในระยะเริ่มต้น เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว หรือเวียนศีรษะ แต่ส่วนใหญ่จะหายไปเมื่อร่างกายปรับตัวได้
- ต้องตรวจสุขภาพและตรวจการทำงานของไตอย่างสม่ำเสมอ
- ข้อดี


- PrEP แบบฉีด
- ข้อดี
- มีประสิทธิภาพสูงและดีกว่าการรับประทานยาแบบรายวันในบางกลุ่มประชากร
- ไม่ต้องรับประทานยาเป็นประจำ ลดความเสี่ยงจากการลืมใช้ยา
- สะดวกสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกในการพกพายาหรือไม่ต้องการให้ผู้อื่นทราบ
- ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้ยาในชีวิตประจำวัน
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ชายรักชาย (MSM) และบุคคลข้ามเพศ (TGW)
- ข้อเสีย
- ต้องเดินทางไปคลินิกทุก 2 เดือนเพื่อรับการฉีดยา ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับบางคน
- อาจมีอาการเจ็บหรือระคายเคืองบริเวณที่ฉีดในบางราย
- ในกรณีที่ผู้ใช้หยุดฉีดยา ความเข้มข้นของยาในร่างกายจะลดลงช้า ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
- ยังไม่มีการให้บริการในทุกประเทศ คาดว่าอาจมีการให้บริการในอนาคต (ในไทยมีบริการแล้ว)
- ข้อดี
PrEP แบบไหนเหมาะกับคุณ?
การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับ:
- พฤติกรรมทางเพศ: หากคุณมีเพศสัมพันธ์เป็นครั้งคราวเพร็พตามความต้องการ อาจเหมาะสมกว่า แต่หากคุณมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง ควรเลือกเพร็พแบบรายวัน
- ความสะดวก: หากคุณไม่ต้องการวางแผนล่วงหน้า PrEP แบบรายวันอาจเหมาะกว่า
- คำแนะนำทางการแพทย์: ปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสุขภาพและพฤติกรรมของคุณ
การเริ่มต้นใช้ PrEP
ตรวจสุขภาพก่อนเริ่มใช้ยา |
---|
คุณต้องทำการตรวจหาเชื้อ HIV เพื่อยืนยันว่าคุณยังไม่มีเชื้อ และตรวจการทำงานของไตและตับ เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายสามารถรับยาต้านไวรัสได้ |
ปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง |
---|
ขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้ PrEP ที่เหมาะสมสำหรับคุณได้ที่ www.love2test.org รับข้อมูลเกี่ยวกับยาอย่างถูกต้อง |
ปฏิบัติตามคำแนะนำ |
---|
ทานยาอย่างเคร่งครัด และใช้ยาอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์ เก็บยาไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม และไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก 3-6 เดือน |
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Chemsex อย่างไร? ให้ห่างไกลจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
รวมให้แล้วแหล่งตรวจเอชไอวีกรุงเทพ ใกล้ที่ไหน ไปได้เลย!
PrEPOn-demand และเพร็พแบบรายวัน มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อ HIV หากใช้อย่างถูกต้อง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์เป็นครั้งคราวและต้องการวิธีที่ยืดหยุ่น ส่วนเพร็พแบบรายวันเหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้ออย่างต่อเนื่องและต้องการความสะดวกในการป้องกันโดยไม่ต้องวางแผนล่วงหน้า สุขภาพทางเพศที่ดีเริ่มต้นจากการป้องกันที่เหมาะสม หากคุณสนใจใช้ PrEP ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ และเริ่มต้นดูแลสุขภาพของตัวเองตั้งแต่วันนี้!
อ้างอิงข้อมูลจาก ▶ คำแนะนำขนานยาเพร็พตามความต้องการ (www.endinghiv.org.au) ▶ การเปรียบเทียบระหว่างการรักษาเพร็พตามต้องการ (www.pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC8412015) ▶ เพร็พตามต้องการ: ทางเลือกในการป้องกันเอชไอวี (www.tncathai.org/images/NCAB/ncab-article46.pdf) |